สถิติ
เปิดเมื่อ17/08/2014
อัพเดท20/08/2014
ผู้เข้าชม8590
แสดงหน้า9455
ปฎิทิน
May 2024
Sun Mon Tue Wed Thu Fri Sat
   
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 




ทำไมสมาชิก Giffarine มีแต่จะได้กำไร ไม่มีขาดทุน

อ่าน 106 | ตอบ 0
ทำไมสมาชิก Giffarine มีแต่จะได้กำไร ไม่มีขาดทุน

หากคุณเป็นสมาชิกกิฟฟารีน สิ่งแรกที่คุณจะได้รับก็คือ 'ส่วนลด' คุณจะสามารถซื้อสินค้าราคา 100 บาท ได้ด้วยเงินเพียง 75 บาท พูดง่ายๆก็คือ คุณได้ส่วนลด 25% จากราคาสินค้าที่แสดงไว้ในแคตตาล็อกหรือบนเว็บไซต์ของบริษัทกิฟฟารีน

หลายคนอาจจะบอกว่า คุณภาพและปริมาณของสินค้ากิฟฟารีนจะคุ้มกับเงินที่จ่ายไปเหรอ?ลองมาดูตัวอย่างกัน...

ยาสีฟันยี่ห้อเด็นโต๊ะราคา 160 บาท ปริมาณ 160 กรัม สูตรที่ระบุข้างกล่องเหมือนกันหรือใกล้เคียงกัน แต่ยาสีฟันยี่ห้อกิฟฟารีนราคาเพียง 115 บาท!
แปรงสีฟันคุณภาพระดับเดียวกันที่ขายตามร้านสะดวกซื้อราคาด้ามละ 65 บาท แต่ซื้อของกิฟฟารีน คุณจ่ายเพียง 56 บาท 2 ด้าม
น้ำยาบ้วนปากยี่ห้อหนึ่งซึ่งวางขายตามห้างและร้านสะดวกซื้อ ส่วนประกอบและคุณภาพใกล้เคียงกัน ราคา 135 บาท ใช้ได้ 20 ครั้ง แต่น้ำยาบ้วนปากยี่ห้อกิฟฟารีนใช้ได้ 75 ครั้ง ด้วยราคา 135 บาทเท่ากัน!
ถ้าเกิดคุณใช้เครื่องสำอางและครีมบำรุงผิว เอาแบนด์ที่ดังพอประมาณตามห้าง ปกติขายกันที่ชุดละ 7,000 - 10,000 บาท แต่หากคุณลองเทียบสูตรและส่วนประกอบรวมถึงปริมาณและคุณภาพ ซึ่งใกล้เคียงกัน คุณจะพบว่า กิฟฟารีนชุดไฮโดรคริสตัลราคาเพียงแค่ 3,300 บาทเท่านั้น!
และชุดใหม่ล่าสุด จากสวิสเซอแลนด์ เอดเดิ้ลไวส์ เพียง 1335 บาทเท่านั้น

ถึงตรงนี้หลายคนก็คงค้านขึ้นมาว่า 'ของคนไทยทำ ถูกขนาดนี้ คุณภาพต่ำล่ะสิ'

คุณภาพไม่ต่ำนะครับ วัตถุดิบอะไรที่หาในไทยไม่ได้เขาก็สั่งนำเข้ามาจากต่างประเทศ แล้วเอามาผลิตในโรงงานของตัวเองซึ่งตั้งอยู่ในประเทศไทย ถูกต้องตามหลักการ ผ่านการควบคุมและการตรวจสอบมาตรฐานระดับโลก สินค้าเป็นที่ยอมรับในระดับนาชาติจนประเทศต่างๆกว่า 30 ประเทศได้สั่งซื้อสินค้าจากกิฟฟารีนเพื่อนำไปจำหน่ายในประเทศของตนแล้ว แม้ว่ากิฟฟารีนจะยังไม่อนุญาติให้ประเทศเหล่านั้นจำหน่ายสินค้าด้วยวิธีธุรกิจเครือข่ายก็ตาม และที่สินค้ามีราคาถูก แม้จะมีคุณภาพและปริมาณใกล้เคียงหรือมากกว่าสินค้าแบนด์ดังตามห้างร้านก็เพราะว่า

โรงงานผลิตตั้งอยู่ในประเทศไทย ทำให้ไม่ต้องเสียค่าขนส่งสินค้ามาจากต่างประเทศ และเนื่องจากค่าแรงของเราถูกกว่าประเทศใหญ่ๆ เช่น อเมริกา หรือประเทศทางยุโรป ทำให้ต้นทุนในการผลิตลดลงไปอย่างมาก!
ไม่ได้วางขายสินค้าตามห้างร้าน ทำให้ไม่ต้องเสียค่าวางสินค้า ไม่ต้องแบ่งผลกำไรให้กับห้างร้าน
บางคนอาจจะบอกว่าฝีมือคนไทยเชื่อใจไม่ได้... อันนี้เราขอเถียงหัวชนฝาว่าไม่จริง สินค้าของกิฟฟารีนได้รับการยอมรับในเรื่องคุณภาพที่ดีเยี่ยมจากสถาบันต่างๆทั่วโลก เข้าไปดูหลักฐานรางวัลและผลการรับรองคุณภาพได้ที่นี่เลย www.giffarinefactory.com/certificate.html

 
ดังนั้น ทุกครั้งที่เราซื้อสินค้ากิฟฟารีน เราจึงมั่นใว่าเราได้ใช้เงินของเราไปอย่างคุ้มค่า เราได้สินค้าที่มีคุณภาพดีและมีราคาถูกกว่าสินค้าตามห้างร้านต่างๆ นั่นคือ เราประหยัดเงินของเราไปได้เยอะ ลดรายจ่ายไปได้มาก แต่คุณภาพชีวิตไม่ได้ลดลงไปด้วย เผลอๆอาจจะสูงขึ้นด้วยซ้ำ!

นอกจากสินค้าราคายุติธรรมที่ยิ่งถูกลงไปอีกเมื่อคุณเป็นสมาชิกซึ่งได้รับส่วนลดจากการซื้อสินค้าอย่างที่สองที่คุณจะได้รับก็คือ 'เงินปันผล' มาลองดูตัวอย่างง่ายๆว่าคุณจะได้รับเงินปันผลเท่าไหร่ หากคุณทำกิฟฟารีนแบบชิวๆไม่ซีเรียส...

1. เดือนมกราคม: คุณเริ่มเป็นสมาชิกในเดือนนี้ และซื้อสินค้าไป 2,000 บาท (ราคาส่วนลด) ทำให้คุณได้รับคะแนน 2,000 PV

ในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ คะแนน 1500 PV แรกจะถูกใช้เพื่อเลื่อนคุณขึ้นไปสู่ตำแหน่งบรอนซ์สตาร์โดยอัตโนมัติ ซึ่งจะทำให้คุณมีสิทธิ์รับเงินปันผล 10% ของยอดคะแนนที่คุณมี หลังจากใช้ไป 1500 PV แล้ว ตอนนี้คุณมีคะแนนเหลืออยู่ 500 PV ดังนั้นคุณจะได้รับเงินปันผล (10/100) x 500 = 50 บาท ดูเหมือนจะเป็นเงินน้อยนิด แต่รอบนี้คุณไม่ใช่ว่าจะได้เงินอย่างเดียว คุณได้ 3 ต่อ! คุณได้รับเงินปันผล คุณได้ตำแหน่งบรอนซ์สตาร์ซึ่งทำให้คุณมีสิทธิ์รับเงินปันผล 10% และคุณยังได้สินค้าราคาสูงกว่า 2,000 บาท ด้วยเงินเพียง 2,000 บาท!

2. เดือนกุมภาพันธ์: ของใช้ในบ้านเริ่มหมดลง ของกิฟฟารีนที่ซื้อไปเริ่มหมดบ้าง คุณเลยไปซื้อสินค้ามาใช้เอง 1,000 บาท (ราคาส่วนลด ซื้อสินค้าราคาแพงกว่า 1,000 บาท ด้วยเงินเพียง 1,000 บาท) ได้รับคะแนน 1,000 PV

ในวันที่ 11 มีนาคม คุณจะได้รับเงินปันผล 10% ของยอดคะแนนที่คุณมี คือ (10/100) x 1000 = 100 บาท

3. เดือนมีนาคม: คุณไม่มีความจำเป็นต้องการซื้ออะไรเลย แต่คนรอบข้างคุณเริ่มมีคนอยากใช้ เริ่มมีคนสนใจอยากมีหน้าตาและผิวพรรณที่ดูดีขึ้นแบบคุณ และเขาขอซื้อสินค้ากิฟฟารีนกับคุณรวมแล้ว 1,000 บาท คุณซื้อสินค้าจากศูนย์กิฟฟารีนใกล้บ้านมาให้เขา ทำให้คุณได้รับคะแนน 1,000 PV

ในวันที่ 11 เมษายน คุณจะได้รับเงินปันผล 10% ของยอดคะแนนที่คุณมี คือ (10/100) x 1000 = 100 บาท ได้รับเงินปันผลเท่าเดิมแต่อย่าลืมว่าเดือนนี้คุณไม่ได้เสียเงินซื้อสินค้าเลยสักบาทเดียว

4. เดือนเมษายน: คุณนั่งเล่นเฟสบุ๊คตามปกติ คุยกับเพื่อนบ้าง เล่าให้เพื่อนฟังบ้าง เพื่อนบางคนฝากคุณซื้อ เพื่อนบางคนสมัครเป็นสมาชิกกับคุณ เพื่อนบางคนใช้แล้วไปบอกต่อ ของที่คุณมีอยู่ก็เริ่มร่อยหรอ คุณจึงไปซื้อมาเพิ่ม คุณมียอดซื้อสินค้าทั้งที่ซื้อด้วยรหัสสมาชิกของคุณเองและที่ซื้อด้วยรหัสสมาชิกของคนที่มาสมัครกับคุณในเดือนนี้กว่า 10,000 บาท

ในวันที่ 11 พฤษภาคม คะแนน 9000 PV แรกจะถูกใช้เพื่อเลื่อนคุณขึ้นไปสู่ตำแหน่งซิลเวอร์สตาร์โดยอัตโนมัติ และคุณยังได้รับเงินปันผลจากคะแนนกลุ่มนี้อีก 10% คือ (10/100) x 9,000 = 900 บาท ตอนนี้คุณมีคะแนนเหลืออยู่ 1,000 PV และมีตำแหน่งเป็นซิวเวอร์สตาร์ ทำให้คุณได้รับเงินปันผล 15% จากคะแนนกลุ่มนี้ คือ (15/100) x 1,000 = 150 บาท ดังนั้นในรอบนี้คุณได้ขึ้นตำแหน่งซึ่งทำให้คุณมีสิทธิ์รับเงินปันผลสูงขึ้นจาก 10% เป็น 15% และคุณยังได้รับเงินปันผลจากยอดคะแนนในรอบนี้อีก 900 + 150 = 1,050 บาท มาดูว่ารอบต่อไปคุณจะได้เงินเท่าไหร่

5. เดือนพฤษภาคม: คุณนั่งเล่นเฟสบุ๊ก นั่งแชท เหมือนปกติ ยังมีคนมาฝากซื้อสินค้ากิฟฟารีนกับคุณเหมือนเดิม คุณซื้อใช้เองด้วย มีคนสมัครสมาชิกกับคุณมากขึ้น คนที่สมัครสมาชิกกับคุณในเดือนก่อนก็ขยายงานเช่นเดียวกัน ทำให้เดือนนี้ คุณยังคงมียอดคะแนน (เอาแบบถ่อมตัวหน่อยละกัน) 10,000 PV

ในวันที่ 11 มิถุนายน คุณจะได้รับเงินปันผล 15% ของยอดคะแนนที่คุณมี คือ (15/100) x 10,000 = 1,500 บาท

6. เดือมิถุนายน: คุณขยายงานต่อเนื่อง คุณเรียนรู้วิธีขยายงานแบบอื่นๆ มีคนมาฝากซื้อกับคุณมากขึ้น คนมาขอสมัครกับคุณมากขึ้น สมาชิกที่สมัครกับคุณก็ขยายงานได้เรื่อยๆเช่นกัน คุณซื้อมาใช้เองด้วย ส่งผลให้ยอดคะแนนเดือนนี้เป็น 50,000 PV

ในวันที่ 11 กรกฏาคม คุณจะได้รับเงินปันผล 10% จากคะแนนที่ 0 ถึงคะแนนที่ 9,000 PV คือ (10/100) x 9,000 = 900 บาท และคุณจะได้รับเงินปันผล 15% จากคะแนนที่ 9,000 ถึงคะแนนที่ 45,000 PV คือ (15/100) x (45,000-9,000) = 5,400 บาท และตอนนี้คุณก็จะได้ขึ้นตำแหน่งโกลสตาร์ดยอัตโนมัติซึ่งทำให้คุณมีสิทธิ์รับเงินปันผล 25% คุณมีคะแนนเหลืออยู่ 5,000 PV และมีตำแหน่งเป็นโกลสตาร์ ทำให้คุณได้รับเงินปันผล 25% จากคะแนนกลุ่มนี้ คือ (25/100) x 5,000 = 1,250 บาท ดังนั้นในรอบนี้คุณได้ขึ้นตำแหน่งโกลสตาร์ซึ่งทำให้คุณมีสิทธิ์รับเงินปันผลสูงขึ้นเป็น 25% และคุณยังได้รับเงินปันผลจากยอดคะแนนในรอบนี้อีก 900 + 5,400 + 1,250 = 7,550 บาท

7. เดือนกรกฏาคม: คุณศึกษาวิธีบริหารและการตลาดมากขึ้น มีประสบการณ์มากขึ้น เครือข่ายของคุณเติบโตอย่างมั่นคง สมาชิกในเครือข่ายของคุณก็ยังขยายงานได้เรื่อยๆ มีคนมาฝากซื้อเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ยอดคะแนนทั้งเครือข่ายในเดือนนี้รวมกันเท่ากับ 60,000 PV

ในวันที่ 11 สิงหาคม คุณจะได้รับเงินปันผล 25% คือ (25/100) x 60,000 = 15,000 บาท และคุณยังจะได้รับโบนัสเพิ่มเติมในฐานะผู้บริหารระดับโกลสตาร์ด้วย ดังนี้ รางวัลเงินสด 1,400 บาท คะแนนสะสม 2 คะแนน (สะสมครบ 24 คะแนนรับทันทีเงินสด 60,000 บาท)

นี่เป็นเพียงแค่รายได้ของผู้บริหารระดับต้นเท่านั้น ยังไม่ได้ว่าไปถึงรายได้ โบนัส และสิทธิประโยชน์อื่นๆที่คุณจะได้รับเมื่อคุณขึ้นตำแหน่งผู้บริหารระดับสูง ทั้งเมอร์คิวรี่ จูปิเตอร์ จนกระทั่งพาราไดซ์ และสูงขึ้นไปอีก ทั้งรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากเงินปันผลและโบนัสต่างๆ ทั้งรายจ่ายที่ลดลงจากการได้ซื้อสินค้าคุณภาพดีราคาถูกแถมยังลดให้อีก 25% นี่คือเหตุผลที่ทำให้เรากล้าพูดว่าสมาชิกมีแต่จะได้กำไรมากขึ้นเรื่อยๆไม่มีทางขาดทุน!


บางคนบอกว่ากว่าจะได้เห็นรายได้หลักหมื่นก็ปาเข้าไปกว่าครึ่งปี สู้รายได้ที่ได้จากงานประจำก็ไม่ได้!!!

ตรงนี้เราต้องบอกว่าการสร้างรายได้กับกิฟฟารีนนั้นไม่ใช่อะไรที่คุณต้องทำเต็มเวลาตั้งแต่เช้าจนถึงเย็น คุณทำได้หลังเลิกงานหรือวันหยุดหรือสักหนึ่งชั่วโมงก่อนเข้านอนก็เหลือเฝือแล้ว แค่เปิดเน็ต หาสาระ หาความรู้ อยู่กับบ้าน หลังเลิกงาน

อย่าว่าแต่เงินหมื่นเลย ได้เงินเพิ่มมาเดือนละสองสามพันจากการสร้างรายได้แบบชิวๆสนุกแบบนี้ก็น่าดีใจกันยกใหญ่แล้ว เพียงแค่ถ้าคุณอยากได้มากๆอยากได้เร็วๆ คุณก็ต้องมองเหมือนนักธุรกิจ ต้องมีการลงทุนให้เหมาะสมกันบ้าง... แต่เราไม่ได้หมายถึงเงินลงทุนหลักหมื่นหลักแสนอะไรที่คุณต้องจ่ายก่อนจึงสามารถเริ่มงานได้นะ เราหมายถึงเงินลงทุนหลักร้อยเท่านั้น! เอาเงินร้อยไปจับเงินหมื่นเงินแสน ใครๆก็ทำได้ หลายคนก็ทำมาแล้ว คุณเองก็คงไม่พลาด 

เรามองว่าทุกคนมีศักยภาพด้วยกัน เพียงแต่จะถูกนำมาใช้หรือเปล่าก็เท่านั้นเอง หากคุณใช้พลังงาน เวลา และความคิดไปกับงานที่ทำเงินให้คุณได้มากๆ คุณก็มีโอกาสที่จะหาเงินได้มาก ทั้งนี้ทั้งนั้น งานนั้นก็ควรจะเป็นงานที่สุจริตด้วย
ความคิดเห็นของผู้เข้าชม
ชื่อผู้แสดงความคิดเห็น :
สถานะ : รหัสผ่าน :
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง :
รหัสความปลอดภัย :